หนึ่งในทำเลทองสำหรับบรรดาผู้ซื้อบ้านที่กำลังมองหาพื้นที่อยู่อาศัยในย่านที่นับวันจะมีแต่มูลค่าเพิ่ม
ถนนรามอินทราเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อพื้นที่ด้านทางทิศเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ เข้าสู่พื้นที่ชั้นใน โดยเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางด่วนหลักที่ครอบคลุมทั้งสองฝั่งแม่น้ำของกรุงเทพฯ ถนนเลียบทางด่วนเชื่อมต่อกับทางตัดใหม่ ทางลัดที่มีมากมาย รวมทั้งถนนวงแหวนรอบนอกเพื่อความสะดวกในการออกเดินทางต่างจังหวัด อีกทั้งระบบรถไฟฟ้าที่จะครบวงจรต่อไปในอนาคต
ก็เพราะความสะดวกสบายในการเดินทางนี่เอง ที่ทำให้ย่านถนนรามอินทราและบริเวณโดยรอบ มีร้านรวงและสถานที่มากมายที่ช่วยเพิ่มกิจกรรมสนุกสนานสำหรับการใช้ชีวิต ใกล้บ้านมีโรงเรียน มีโรงพยาบาลชั้นนำ มีห้าง มีคอมมิวนิตี้มอล์ที่แสนจะเก๋ มีคาเฟ่บรรยากาศดี ร่มรื่น และที่สำคัญยังเป็นย่านที่คนมีฝีมือทำอาหาร มาร่วมประลองเปิดร้าน นำเสนออาหารจานเด็ดมากมายหลายสัญชาติ ที่ทำให้คนย่านนี้อยู่ดีกินดีได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง ซึ่งในวันนี้เราขอนำเสนอห้าร้านแรก เพื่อให้เห็นว่า รามอินทรานี้ ดีงามจริงๆ
Round Table by Chef Man
ชั้น 2 The Jas รามอินทรา ซอยลาดปลาเค้า ถนนรามอินทรา กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน 11.30 – 14.30, 18.00 – 22.00 น.
โทร. 02-041-8330
https://www.facebook.com/roundtablebychefman/
location: https://goo.gl/maps/uFBAVkiLDtQ2
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารจีนแบบฮ่องกง โดยเฉพาะ “ติ่มซำ” อร่อยๆ มากมาย อย่างเช่น ซาลาเปาไส้ไหล ฮะเก๋า ขนมจีบเป๋าฮื้อ ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปาท่องโก๋ หรือไม่ก็ หมูกรอบ เป็ดย่าง เป็ดปักกิ่ง และเต้าหู้โฮมเมดรสละมุนอันขึ้นชื่อของเชฟแมน หนึ่งในร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงที่ทำให้หลายคนลืมการเดินทางไปฮ่องกงเพื่อกินติ่มซำไปนานมากแล้ว ข่าวดีคือว่า เชฟแมนได้มาเปิดสาขานอกเมืองแห่งแรกที่รามอินทรา เอาใจฟู๊ดดี้ฝั่งกระนี้กันเป็นที่เรียบร้อย ร้าน Round Table by Chef Man เสิร์ฟติ่มซำตามตำรับเชฟแมนแท้ๆ ด้วยเมนูต่างๆ ที่ร้านนี้จำลองของเด็ดของร้านเชฟแมนมาแทบทั้งหมด ขาดไม่ได้นอกจากติ่มซำนานาชนิดแล้ว ยังมี “เป็ดปักกิ่งสไตล์ฮ่องกง” อันเป็นอีกจานเด่นเอกลักษณ์ของร้าน ที่โดดเด่นตั้งแต่กรรมวิธีการเตรียมเป็ด การปรุงและการเสิร์ฟ ที่เฉือนหนังอันกรอบติดเนื้อที่ย่างมาได้ชุ่มฉ่ำอีกนิดหน่อยแบบชาวฮ่องกง รับประทานกับแป้งห่อทำใหม่สด เสิร์ฟร้อนฉ่า ทั้งหอม ทั้งนุ่ม สำหรับคนชอบจานเส้น อย่าได้พลาดเมนูขึ้นชื่อ “ราดหน้าเส้นกรอบ” ที่ทางร้านนำเส้นใหญ่มาทอดกรอบเบาหวิว แต่รับประทานแล้วดีต่อใจ อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ “ผัดผักรวม” ที่นำผักมงคล 8 ชนิดตามตำราชาวฮ่องกงมาผัดราดซอสเป๋าฮื้อ ชูโรงด้วยเต้าหู้โฮมเมดตำรับเชฟแมนที่เนื้อนุ่ม หวลกลิ่นเต้าหู้อ่อน แนะนำให้เช็คเพจของทางร้านเพราะที่นี่มีโปรโมชั่นบ่อยครั้ง และควรจองโต๊ะล่วงหน้า
Korean Spoon
ชั้น 2 ห้าง The Promenade ถนน รามอินทรา คันนายาว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
โทร. 090-906-0609
https://www.facebook.com/koreanspoon/
Location: https://goo.gl/maps/161hmwoKEay
ทันทีที่ได้รับรู้รสกิมจิและเครื่องเคียงหลากรสอันเป็นเอกลักษณ์เด่นของมื้อเกาหลีที่ร้าน Korean Spoon เป็นครั้งแรก บรรดาเซียนอาหารเกาหลีย่อมรับรู้ถึงความปราณีตที่โดดเด่นทั้งเรื่องรสชาติ หน้าตา และความสะอาดสะอ้านของอาหารร้านนี้ Korean Spoon ภูมิใจนำเสนออาหารเกาหลีสูตรดั้งเดิม ด้วยเมนูอาหารได้รับการรับรองสูตรความแท้และดั้งเดิมจากกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลี ดังนั้นนอกจากรสชาติจะอร่อยแบบเกาหลีแล้ว ยังคำนึงถึงการเลือกสรรวัตถุดิบ กรรมวิธีขั้นตอนการปรุง และการจัดสำรับที่เน้นทั้งความสวยงาม และความปลอดภัย วันธรรมดา Korean Spoon สาขานี้มีเสิร์ฟอาหาร “ชุดมื้อกลางวัน” ที่ราคาย่อมเยา เริ่มต้นเพียง 170 บาท แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทางร้านขอเอาใจคนรักอาหารเกาหลีด้วยเมนูปรกติ ที่มีให้เลือกตั้งแต่อาหารจานเดียวประเภท “โดลสด บิบีมบับ” หรือ ข้าวยำเกาหลี เสิร์ฟในชามร้อน “จับแช” หรือยำวุ้นเส้นเกาหลี ที่วุ้นเส้นนั้นทำจากเส้นหัวบุก ผัดเบาๆ รสกลมกล่อมไปกับเครื่องเคียงหลากชนิดที่ทั้งชูรสชาติและหน้าตาของอาหารจานนี้ นอกจากนั้นยังมีบาร์บีคิวสไตล์เกาหลี อย่างเช่น “อองกิ กัลบิ” หรือซี่โครงหมูหมักซอสเกาหลี ที่ใช้ภูมิปัญญาโบราณ นำผลไม้รสเปรี้ยวมาหมักเนื้อสัตว์ให้นุ่ม ผู้ที่ชอบเนื้อวัว ขอแนะนำชุด”โชโชกิ โมดุม” หรือชุดเนื้อวัวรวม ที่มีเนื้อวัวหลายส่วน เช่น เสือร้องไห้ (ติดมัน) กระบังลม สันนอก และซี่โครง เสิร์ฟมาชุดใหญ่ จะย่างไปรับประทานไปด้วยตัวเอง หรือจะให้ทางร้านย่างให้ก็ได้ ขอแนะนำให้รับประทานทุกอย่างกับชาข้าวบาร์เลย์ของทางร้านเพื่อเติมเต็มรสชาติแบบเกาหลีแท้ๆ
Humming Birds Kitchen and Garden
468 โยธินพัฒนา ซอย 3 ถนนเอกมัย – รามอินทรา กรุงเทพฯ
เปิด ทุกวัน (ปิดวันพุธ) 11.30 – 21.30 น.
โทร. 095-121-2252
https://www.facebook.com/hummingbirdsbkk/
Location: https://goo.gl/maps/2EJfdFqW22o
ชื่อร้าน “Humming Birds” มาจากการที่พื้นที่ตรงนี้ คือสวนต้นไม้เลี้ยงของอาจารย์ สุรัตน์ วัณโณ นักสะสมต้นไม้ตระกูลใบที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของไทย ที่นกต่างๆ มักมาพักพิงและส่งเสียงร้องด้วยความสุข เป็นที่ชื่นใจของผู้คนที่ได้มาเที่ยว จนทำให้ลูกๆ ตัดสินใจเปิดร้านอาหารขึ้น โดยมีฉากหลังอันเขียวชอุ่มของโรงเพาะเลี้ยงต้นไม้ เป็นหนึ่งในจุดเด่น ร้าน Humming Birds เสิร์ฟอาหารหลายแบบ อาหารไทยก็รสจัด อาหารฝรั่งก็โฮมเมด เพราะได้สูตรเด็ดจากร้านดังย่านร่วมฤดีมาตั้งต้นให้ ดังนั้นเมนูที่นี่จึงหลากหลาย ใครจะนึกว่าย่านรามอินทราจะสามารถหาร้านที่ทำ Coq au Vin ไก่ตุ๋นไวน์สูตรอร่อยสูตรโบราณของฝรั่งเศสขายได้ทุกวัน หรืออยากจะรับประทานปลา ขอแนะนำ “ปลากระพงฟลอเรนทีน” หรือเนื้อปลากระพงโปะหน้าด้วยผักโขมอบชีสแล้วอบ เพิ่มความหอมและเค็มปะแล่มด้วยซอสเคเปอร์ สำหรับอาหารไทย ขอบอกว่าอย่าได้พลาด เพราะอร่อยมากไม่แพ้อาหารจากครัวฝรั่ง แนะนำให้ลอง “อาหารนก” หรือปลาหมึกชุปแป้งทอดสูตรพิเศษของทางร้าน “กุ้งแช่น้ำปลาวาซาบิ” ที่เน้นใช้กุ้งแชบ๊วยสดรสหวานอร่อย ราดด้วยซอสพริกกระเทียมที่เพิ่มความหอมด้วยวาซาบิ หรือ “หมูคันทรีริบส์ย่างจิ้มแจ่ว” ใช้เนื้อหมูสันนอกส่วนที่ติดสะโพกที่มีอัตราส่วนของมันและเนื้อกำลังดี หมักสูตรไทย ย่างเนื้อนุ่มๆ รับประทานกับแจ่ว หรือเมนูอาหารไทยจานเดียวของที่นี่ก็ดูดีมาก เช่น ข้าวหน้าไก่ไข่ดาวกรอบ ข้าวปลาหมึกผัดไข่เค็ม เสิร์ฟกับข้าวที่ทางร้านคัดสรรมาจากนาข้าวเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดนครปฐมอีกด้วย
ภัตตาคาร ชายทะเลจันทร์เพ็ญ
80 หมู่ 5 ถนน รามอินทรา คันนายาว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
โทร. 02-917-8707-10
https://www.facebook.com/chandrphen/
Location: https://goo.gl/maps/bq6MCRtgJwt
หนึ่งในร้านอาหารจีนที่เก่าแก่มากของเมืองไทย ที่ยังใช้สูตรอาหารดั้งเดิม มีจุดเด่นคือน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวสูตรคุณย่า ส่วนผสมสำคัญของน้ำจิ้มไก่ ที่ทำให้ไก่ย่างของร้านนี้เป็นที่ขึ้นชื่อลือชามากว่า 63 ปีแล้ว ชายทะเลจันทร์เพ็ญเน้นอาหารจีนสูตรไหหลำ เมนูเล่มหนาหนักของทางร้านอัดแน่นไปด้วยรายการอาหารที่แสนจะน่ารับประทาน ที่อยากแนะนำมากก็คือ “แฮกึ๊นสด” ชิ้นใหญ่เบ้ง ทำจากเนื้อกุ้งล้วนที่ผ่านการนวดมือจนเหนียวนุ่มแล้วห่อฟองเต้าหู้สด ทำสดทอดสดต่อเมื่อมีลูกค้าสั่ง อีกจานที่เป็นของโปรดของหลายๆ คนและหารับประทานค่อนข้างยากก็คือ “สุกี้แห้งกระทะร้อน” สุกี้ผัดแห้ง ที่แสดงถึงฝีมือฉมังของพ่อครัว เพราะเครื่องเคราทั้งหลายช่างเข้ารสกันทุกอณู เสิร์ฟพูนๆ บนกระทะทองเหลืองที่อังไฟไว้ รับประทานกับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ ที่มาพร้อมกระเทียมและพริกสดสับ สำหรับคนที่ชอบสลัดครีม แนะนำ “สลัดกุ้งทอด” เสิร์ฟในกระเช้าเผือก ที่รับประทานได้หมดทุกส่วน กระเช้าเผือกที่ทำใหม่สด เพิ่มความกรุบกรอบได้อร่อยมากจริงๆ จานผักที่โดดเด่น ก็มี “หน่อไม้ทะเล (ชิลี) เจี๋ยนคะน้า” มาแบบกรุบกรอบรสชาติกำลังดีไม่มันเลี่ยน สำหรับซุปแบบจีนแท้ๆ ขอนำเสนอ “หัวปลาต้มเผือก” ที่ร้านชายทะเลจันทร์เพ็ญนั้นอร่อยเหลือเกิน น้ำซุปหวานกลมกล่อม เพิ่มความหอมพิเศษด้วยกระดูกปลาแห้ง โรยหน้าด้วยต้นหอมทอดกรอบ อันเป็นตำรับดั้งเดิมไม่มีเพี้ยน จะรับประทานซุปหม้อนี้ให้อร่อยควรจะต้องขูดเนื้อเผือกที่หอมนุ่ม ผสมกับน้ำซุปให้ข้น ชูรสเล็กน้อยด้วยน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเผ็ดและหอมกระเทียมที่แสนจะเข้ากัน
Granda Pizza
ซอยวัชรพล (ตรงข้ามปั๊มบางจาก) ถนนรามอินทรา บางเขน กรุงเทพฯ
จันทร์ – ศุกร์ 16.00 – 23.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 12.00 – 23.00 น.
โทร. 02-945-5813
https://www.facebook.com/Grandapizza/
Location: https://goo.gl/maps/i5tW6RnM4FK2
ร้านพิซซ่าและอาหารอิตาเลียนที่ขึ้นชื่อของซอยวัชรพล รามอินทรา ที่นักกินย่านนี้บอกต่อๆ กันมาว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะดี” ก็เพราะทำเลที่อยู่ในซอยออกจะรกร้างแถมยังอยู่ท่ามกลางผับบาร์เสียอีก แต่เพราะอาหารที่โดดเด่น โดยเฉพาะ “พิซซ่าเตาถ่าน” และบรรดาอาหารอิตาเลียนอีกมากมายสูตรดั้งเดิมของเจ้าของ ทำให้ร้าน Granda Pizza เป็นหนึ่งในร้านอิตาเลียนที่คนย่านนี้นิยมมาก โดยเฉพาะยามที่โหยหาอาหารฝรั่งรสชาติดีแบบไม่อยากขับรถไปไหนไกล ความอร่อยของพิซซ่ามาจากเครื่องปรุงและวัตถุดิบ พิซซ่าแป้งบางตามแบบฉบับ Romana ของร้านนี้ทำจากแป้งผสมสูตรลับที่ปล่อยให้ขึ้นด้วยยีสต์อย่างช้าๆ อย่างน้อย 20 ชั่วโมง ก่อนจะนำมานวดแผ่เป็นแผ่นบาง ทาทับด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้นที่ทางร้านทำเอง และบรรดาหน้าต่างๆ ที่มีมากมาย แนะนำว่าหากเลือกไม่ถูก สามารถขอผสมสองหน้าได้ เราเลือกครึ่งหนึ่งเป็น “หน้าแกรนดา” สูตรเด็ดของทางร้าน ที่มีชีสมาสคาร์โปเน่ พาร์ม่าแฮม และร็อกเก็ต ส่วนอีกครึ่งหนึ่งขอรสไทยที่ชื่อว่า “ทะเลร้อนแรง” สองหน้ารสแตกต่างกันลิบ แต่กินสลับตัดกันแก้เลี่ยนได้ยอดเยี่ยม สำหรับคนรักชีส แนะนำ “ชีสบูรัตต้าสด” ที่ทำจากนมควาย รสอ่อนนุ่มรับประทานกับสลัดร็อกเก็ตและเห็ดแชมปิญองหมัก เข้ากันได้ดีเหลือเกิน ในส่วนพาสต้านั้น มีให้เลือกทั้งแบบครีมมี่สูตรอิตาเลียนเหนือบ้านเกิดของเจ้าของ เช่น “สปาเก็ตตี้เพสโต้” ที่เพิ่มดีกรีความเนียนนุ่มด้วยสตราเซียเตร่าชีส หรือหากชอบรสจัดและนิยมซอสมะเขือเทศ ขอแนะนำ “เพนเน่ อมาตริกานา” ที่ผัดพาสต้ากับซอสมะเขือเทศรสเปรี้ยวอมหวาน เพิ่มรสด้วยหัวหอม เบคอน และพริกแห้ง เห็นรสจัดแบบนี้ คุณลิวิโอเจ้าของคอนเฟิร์มว่าเป็นสูตรอิตาเลียน ที่ก็ชอบรับประทานของเผ็ดๆ ด้วยเช่นกัน
